สเตอร์ลิ่ง ตกอับระดับสิบ จ่อนั่งรากงอก
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษและผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเผชิญวิกฤตหนักในอาชีพการค้าแข้งหลังจากย้ายมาร่วมทีมเชลซีในฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา โดยสเตอร์ลิ่งซึ่งย้ายมาเชลซีด้วยค่าตัวมหาศาลและได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นตัวหลักในเกมรุกของทีม กลับไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมและได้ลงเล่นน้อยมากใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา
ฤดูกาลที่ผ่านมา สิงห์บลูจบซีซั่นด้วยผลงานที่น่าผิดหวัง และได้ทำการเปลี่ยนผู้จัดการทีมหลายครั้งทำให้สถานการณ์ภายในสโมสรมีความไม่แน่นอน และการมาของเอ็นโซ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมคนใหม่ ยิ่งทำให้สถานการณ์ของ สเตอร์ลิ่ง ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดย มาเรสก้า ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าเขามีแผนในการสร้างทีมด้วยรูปแบบการเล่นที่เน้นปีกที่มีความคล่องตัวและสามารถเข้ากับระบบของเขาได้ดี แต่ทว่า สเตอร์ลิ่ง ไม่ใช่ปีกในแบบที่ มาเรสก้าต้องการ แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์และความสามารถในการทำประตูที่โดดเด่นในสมัยที่เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ตามรายงานของสำนักข่าว เดอะแอตเลติก การที่ สเตอร์ลิ่ง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ มาเรสก้า ทำให้เขาต้องมองหาสโมสรใหม่ก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลงในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สเตอร์ลิ่งและทีมงานของเขากำลังพยายามแก้ไขปัญหาสัญญากับเชลซี ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 3 ปี พร้อมกับค่าเหนื่อยที่สูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และความพยายามที่จะย้ายทีมเพื่อโอกาสในการลงเล่นที่มากขึ้น อาจรวมไปถึงการต้องยอมลดค่าเหนื่อยอันมหาศาลของเขา
สถานการณ์ของ สเตอร์ลิ่ง ดูแย่ลงหลังจาก เว็บไซต์ สกายสปอร์ท รายงานว่า แอสตัน วิลล่า ซึ่งเคยมีข่าวให้ความสนใจในตัว สเตอร์ลิง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับดีลดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีความสนใจที่จะเซ็นสัญญากับปีกวัย 29 ปีรายนี้ ทำให้อนาคตของสเตอร์ลิ่งยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก นอกจากนี้ ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า คริสตัล พาเลซ เป็นอีกสโมสรหนึ่งที่มีความสนใจในตัว สเตอร์ลิ่ง แต่การเจรจากลับยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากสเตอร์ลิ่ง ยังคงต้องการที่จะหาสโมสรที่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยในจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่เขาได้รับจากเชลซีในปัจจุบัน
รายงานจากอีเอสพีเอ็นระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาใช้ สเตอร์ลิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการเซ็นสัญญา จาดอน ซานโช่ ซึ่งเป็นปีกที่เชลซีหมายหัวเอาไว้ และหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษ เนื่องจาก สเตอร์ลิ่ง เคยเป็นผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม การย้ายไปยังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นยังคงเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ เนื่องจากเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถหาข้อตกลงที่เหมาะสมในการแลกเปลี่ยนผู้เล่นทั้ง 2 รายได้
ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความสนใจในตัว สเตอร์ลิ่ง แต่ทว่าพวกเขาก็มีแผนในการเซ็นสัญญาเพื่อคว้าตัว จาดอน ซานโช่ เช่นกัน ทำให้โอกาสที่จะได้ย้ายไปเล่นในแดนมะกะโรนีของนักเตะเชลซีรายนี้ยังคงมืดมน
การหาสโมสรใหม่ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลง เป็นสิ่งที่ สเตอร์ลิ่ง จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาฟอร์มและความฟิตของเขาเอาไว้ และหากไม่สามารถย้ายไปเล่นในสโมสรใหม่ได้ทันเวลา สเตอร์ลิ่ง อาจจะต้องใช้เวลานั่งอยู่ข้างสนามจนถึงช่วงตลาดซื้อขายนักเตะจะเปิดอีกครั้งในเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสในการลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษอีกด้วย
กรณีของราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในขณะนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความไม่แน่นอนในวงการฟุตบอล สเตอร์ลิ่ง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ปัจจุบันเขากลับกลายเป็นผู้เล่นที่มีอนาคตที่ไม่แน่นอน รวมถึงการไม่สามารถหาสโมสรที่ต้องการเซ็นสัญญากับตัวเขาอย่างแท้จริงได้
แม้ว่าเชลซีจะไม่ได้มี สเตอร์ลิ่ง อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือ มาเรสก้า แต่เขายังคงมีความสามารถที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทีมอื่นๆ ที่ต้องการผู้เล่นตำแหน่งปีกที่มีความเร็วและประสบการณ์ในลีกสูงสุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดก่อนตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลง ทำให้ สเตอร์ลิ่ง ต้องรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้โอกาสในการย้ายทีมหลุดมือไป โดยมีรายงานว่า ถ้าได้รับค่าเหนื่อยที่สมน้ำสมเนื้อ สเตอร์ลิง พร้อมที่จะเปิดกว้างให้กับทุกสโมสรที่สนใจในตัวเขา รวมไปถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แค้นร่วมเมืองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่เขาเคยประสบความสำเร็จด้วยมาก่อน ซึ่งแท้จริงแล้วปีกวัย 29 ปีรายนี้ ซึ่งเคยส่วมเสื้อหงส์แดง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยเป็นแฟนบอลตัวยงของทีมปีศาจแดงมาตั้งแต่วัยเยาว์ ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในปี 2012
ดูกีฬาสดได้ที่ 👉 | GoalDaddy TV (gdgoal.tv)