ฟอร์มดิ่ง ไก่เดือยทอง ไม่! ไก่เหงา ใช่!

GDTV - 18 ก.ย. 2024
ยอดการรับชม :
84
ฟอร์มดิ่ง ไก่เดือยทอง ไม่! ไก่เหงา ใช่!

ฟอร์มดิ่ง ไก่เดือยทอง ไม่! ไก่เหงา ใช่!

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อาการหนักหลังจากพ่ายให้กับอาร์เซนอล 1-0 ในศึกนอร์ธลอนดอนดาร์บี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมไก่เดือยทองหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 13 ของตารางพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ โดยเก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 4 เกมแรกตั้งแต่เปิดฤดูกาล ภายใต้การคุมทีมของ แอนจ์ พอสเตคอกลู แรงกดดันเริ่มก่อตัวขึ้น อย่างหนักเมื่อแฟนบอลสเปอร์เริ่มออกอาการไม่พอใจหลังจากไม่สามารถเก็บชัยชนะในบ้านได้ในการพบกับคู่แข่งร่วมเมืองถึง 3 นัดติดต่อกัน

หลังเกม พอสเตคอกลู กุนซือชาวออสเตรเลี่ยน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างกล้าหาญว่า เขามักจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่สองเสมอ และยืนยันว่าเขาเชื่อมั่นในกระบวนการของทีม กุนซือวัย 59 ปี ให้ความคิดเห็นว่า ผลงาน 4 เกมแรกของทีมนั้นควรจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ แต่เกมเมื่อวันอาทิตย์กับอาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นดีแค่ไหน สเปอร์สมักจะมีปัญหาในการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตู โดยปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในฤดูกาลนี้เท่านั้น เพราะถ้านับจากฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาทำได้เพียง 44 คะแนนจาก 32 เกมลีกหลังสุด

สถิติของทีมไก่เดือยทองชี้ให้เห็นว่าพวกเขาแพ้มากกว่าชนะในช่วงหลายเกมที่ผ่านมา โดยเสียประตูเฉลี่ยเกือบ 2 ประตูต่อเกม ซึ่งในบรรดา 17 ทีมที่ลงเล่นตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา มีเพียงเวสต์แฮม, วูล์ฟแฮมป์ตัน และเบรนท์ฟอร์ด ที่เสียประตูมากกว่าเท่านั้น และนี่ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดแบบชั่วคราว แต่เป็นปัญหาสะสมที่เกิดขึ้นมานานซึ่งทำให้สเปอร์กลายเป็นทีมที่อยู่กลางตารางมากกว่าจะเป็นทีมที่แข่งขันในระดับยุโรป และปัญหาดูเหมือนจะยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัดจาก 11 เกมลีกหลังสุด

หนึ่งในสาเหตุของปัญหาใหญ่ที่สเปอร์ต้องเผชิญคือฟอร์มการเล่นของผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมชาวเกาหลีใต้ที่ยังคงหาฟอร์มการเล่นที่แน่นอนไม่เจอ โดยในเกมที่พบกับอาร์เซนอล เขาไม่สามารถยิงบอลเข้ากรอบได้เลย ทำให้แฟนบอลหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าทำไม พอสเตคอกลู ถึงไม่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนาม

ถึงแม้ว่า ซน จะทำได้ 2 ประตูในเกมที่พวกเขาเอาชนะเอฟเวอร์ตัน 4-0 ก่อนหน้านี้ แต่ถ้าย้อนไปดูผลงานของเขาในพรีเมียร์ลีก 13 เกมล่าสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม เขายิงได้เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น ฟอร์มที่ตกต่ำของซนทำให้เห็นถึงปัญหาที่ลึกกว่านั้นในทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ผู้เล่นคนสำคัญหลายคนไม่สามารถเล่นได้ตามมาตรฐานที่เคยทำได้

หนึ่งในจุดอ่อนที่ชัดเจนของทีมไก่เดือยทองภายใต้การคุมทีมของ พอสเตคอกลู ก็คือการรับมือจากลูกตั้งเตะของคู่แข่ง ในเกมกับอาร์เซนอล กาเบรียล มากัลเญสทำประตูชัยจากลูกเตะมุมของ บูกาโย่ ซาก้า ซึ่งเป็นประตูที่ 18 ที่สเปอร์เสียจากลูกตั้งเตะตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา นับเป็นสถิติที่แย่เป็นอันดับสองในบรรดาทีมที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีกตลอดทั้งฤดูกาล ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาดังกล่าวดูเหมือนจะยิ่งแย่ลงในยุคของ พอสเตคอกลู สเปอร์เสียประตูจากลูกเตะมุมไปถึง 13 ลูกใน 22 เกมหลังสุดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งบางส่วนอาจเป็นเพราะตัวผู้เล่น โดยเฉพาะผู้รักษาประตูคนใหม่อย่าง กุยเยลโม่ วิคาริโอ ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถควบคุมบริเวณกรอบเขตโทษได้

ปัญหาจากการเสริมทัพผู้เล่นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของฟอร์มอันย่ำแย่ สเปอร์ใช้เงินไปถึง 133.5 ล้านปอนด์ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอันดับที่ 4 ของลีก แต่ผู้เล่นที่เซ็นเข้ามาใหม่ยังไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าพอใจได้มากนัก โดมินิก โซลันกี้ ที่ย้ายมาจากบอร์นมัธด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ หลังจากทำไป 18 ประตูในฤดูกาลที่แล้ว เขายังไม่สามารถหาประตูแรกให้ตัวเองได้ โดยในเกมกับอาร์เซนอล โซลันกี้ ทำงานหนักเพื่อช่วยในเกมรับ แต่เมื่อมีโอกาสในเกมรุก เขากลับขาดความเฉียบคม โดยปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป ยิ่งไปกว่านั้นเขาหาโอกาสในการยิงได้เพียงแค่สองครั้งในเกม

ผู้เล่นใหม่คนอื่น ๆ อย่าง เปโดร ปอร์โร ที่มีจุดเด่นในเกมรุก ก็ถูกเปิดเผยถึงจุดอ่อนในเกมรับ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ขณะที่ เจมส์ แมดดิสัน ก็ยังไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้คงที่ได้ แม้ว่าสเปอร์จะสามารถลดอายุเฉลี่ยของทีมลงได้หลังจาก พอสเตคอกลู เข้ามาคุมทีม และการสร้างทีมที่ยั่งยืนในระยะยาวจะเป็นเป้าหมายหลักของเขา แต่เมื่อมีการใช้จ่ายไปถึง 385.5 ล้านปอนด์ในช่วงสามตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา แฟนบอลย่อมมีสิทธิ์คาดหวังผลลัพธ์ที่ดีกว่าในปัจจุบัน

สิ่งที่ พอสเตคอกลู นำเข้ามาสู่ทีมตั้งแต่เข้ามาคุมทีม ก็คือการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่น จากการเล่นเกมรับและโต้กลับในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ และ โชเซ่ มูรินโญ่ มาสู่สไตล์การเล่นที่เน้นการครองบอลและการเพรสซิ่งที่ดุดัน สเปอร์สภายใต้การจัดการของ พอสเตคอกลู มีการเล่นที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน พวกเขาเล่นเกมรุกมากขึ้น เพรสซิ่งสูง และเน้นการครองบอลเป็นหลัก ซึ่งถ้าทีมเล่นได้ตามเป้า พวกเขาจะสามารถสร้างความตื่นเต้นได้เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือรูปแบบการเล่นที่ทรงพลังนี้กลับไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเท่าที่ควร ขณะที่ความสามารถในการปรับตัวของ พอสเตคอกลู ก็กำลังถูกตั้งคำถามอย่างหนัก ในเกมกับอาร์เซนอล แม้ท็อตแน่มจะครองบอลได้มากกว่า 60% แต่พวกเขากลับไม่สามารถเปลี่ยนการครองบอลเป็นประตูได้เลย

ดูกีฬาสดได้ที่ 👉 | GoalDaddy TV (gdgoal.tv)