10 ผู้เล่นที่เซ็นสัญญาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดในพรีเมียร์ลีก พร้อมเหตุผล!

Gddsport - 12 ต.ค. 2024
ยอดการรับชม :
116
10 ผู้เล่นที่เซ็นสัญญาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดในพรีเมียร์ลีก พร้อมเหตุผล!

ในฤดูกาล 2024-25 นี้ การเซ็นสัญญานักเตะทั้งในระดับแนวหน้า รวมถึงระหว่างสโมสรในลีกด้วยกัน และดาวรุ่งจากทั่วโลกสู่พรีเมียร์ลีกก็ได้สร้างความน่าสนใจให้กับนักเตะเหล่านี้ที่ย้ายเข้าหรือย้ายออกไปมากมาย แต่ก็มีผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จกับต้นสังกัดใหม่ของพวกเขาอยู่มากมาย โดยในบทความนี้ เราจะพูดถึงนักเตะ Top 10 ที่เซ็นสัญญากับทีมใหม่ แล้วประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในช่วงฤดูกาล 2024-25 นี้ จะมีใครบ้าง อ่านต่อได้เลย!

 

10) นูสแซร์ มาซราอุย (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)


ตำแหน่งแบ็กขวาเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ เอริก เทน ฮาก ต้องการปรับปรุงในช่วงซัมเมอร์ และ นูสแซร์ มาซราอุย ก็ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงของเขาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้สำเร็จ ในความเป็นจริง นักเตะทีมชาติโมร็อกโกติดอันดับที่ 7 ในเรื่องการเข้าสกัด (21 ครั้ง) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แม้ว่าผู้เล่นใหม่ของยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์จะประสบปัญหา แต่อดีตนักเตะบาเยิร์นมิวนิครายนี้ก็ปรับตัวได้ดีภายใต้การคุมทีมของเทน ฮากที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาจะคิดถึงมาซราอุยในช่วงที่เขาบาดเจ็บพักรักษาตัวอย่างแน่นอน!

 

9) นิโคลา มิเลนโควิช (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์)


การเสริมกำลังเกมรับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่เสียประตูถึง 67 ประตูในฤดูกาลที่แล้ว! ซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของลีก การมาของ นิโคลา มิเลนโควิช ย้ายมาจากฟิออเรนตินา ที่ย้ายมาด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์กลายเป็นผู้เล่นที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่ากับทุกปอนด์ที่เสียไป เพราะฟอเรสต์เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง (6 ประตู) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ รองจากลิเวอร์พูล (2 ประตู) เท่านั้น! โดยมิเลนโควิช ผู้ที่ติดอันดับที่ 7 ในเรื่องการชนะดวลลูกกลางอากาศต่อเกม (3.3 ครั้ง) เป็นกุญแจสำคัญในความแข็งแกร่งของแนวรับของพวกเขา!

 

8) ซาวินโญ (แมนเชสเตอร์ ซิตี)


หลังจากย้ายมาจากทรัวส์และการยืมตัวที่ประสบความสำเร็จกับกิโรนา ซาวินโญสามารถปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้อย่างง่ายดาย นักเตะทีมชาติบราซิลทำไปแล้วสองแอสซิสต์จากการลงเล่นในลีก 4 นัดให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี ในขณะที่มีเพียง เจเรมี โดกู (16 ครั้ง) ที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากกว่าเขา (9 ครั้ง) เขาคือหนึ่งในตัวรุกทางเลือกที่ เปป กวาร์ดิโอลา พร้อมที่จะใช้งานอย่างแท้จริง

 

7) ริคคาร์โด คาลาฟิโอรี (อาร์เซนอล)


ริคคาร์โด คาลาฟิโอรี ได้รับการทดสอบอย่างหนักในการลงสนามเปิดตัวพรีเมียร์ลีกครั้งแรก โดยเริ่มต้นและทำประตูได้ในเกมที่เสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 โดยนักเตะทีมชาติอิตาลีรายนี้ย้ายมาที่อาร์เซนอลหลังจากมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมในเซเรีย อา ซึ่งจบด้วยการได้เป็นตัวจริงให้ทีมชาติอิตาลีในศึกยูโร 2024 แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริง และมีเพียง 3 จาก 5 นัดของเขาที่ได้ลงเป็นตัวจริง แต่คาลาฟิโอรีก็แสดงผลงานที่มั่นคงเมื่อ มิเกล อาร์เตตา เรียกใช้งานได้อยู่เสมอ

 

6) ฟาคุนโด บูโอนาโนเต (เลสเตอร์ซิตี)


เลสเตอร์ทำประตูได้ 9 ประตูในฤดูกาลนี้ มากกว่านิวคาสเซิล (8) และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (5) โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญของเกมรุกที่ดีของพวกเขาคือผลงานของฟาคุนโด บูโอนาโนเต ดาวรุ่งชาวอาร์เจนตินาที่ย้ายมาจากไบรท์ตันด้วยสัญญายืมตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและได้มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 4 ประตู โดยยิงได้สองประตู แข้งวัย 19 ปียังทำงานหนักในเกมรับ ซึ่งแสดงให้เห็นจากการเข้าสกัดเฉลี่ย 2.9 ครั้งต่อ 90 นาที!

 

5) แม็กซ็องซ์ ลาครัวซ์ (คริสตัล พาเลซ)


แม้ว่าคริสตัล พาเลซจะยังไม่ชนะในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาก็มีเกมรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเสียประตูเท่ากับทีมอันดับหกอย่างไบรท์ตัน (10 ประตู) แม็กซ็องซ์ ลาครัวซ์เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอในแนวรับ โดยเฉลี่ยการเข้าสกัด 3.8 ครั้งต่อเกม ซึ่งติดอันดับที่ 23 ในลีก ยังเป็นช่วงเริ่มต้นสำหรับลาครัวซ์ในลอนดอนใต้ แต่สัญญาณเริ่มต้นบ่งบอกว่าเขาจะสร้างความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมในแนวรับสามคนของพาเลซได้ดี

 

4) อิลิมาน เอ็นดิอาย (เอฟเวอร์ตัน)


เอฟเวอร์ตันเริ่มต้นฤดูกาลได้ช้า แต่การไม่แพ้ติดต่อกันสามนัด รวมถึงการคว้าชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาลกับคริสตัล พาเลซ ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มฟื้นตัวแล้ว การตัดสินใจของ ฌอน ไดช์ ที่จะให้ ดไวท์ แม็คนีล เล่นตรงกลางไม่ได้ส่งผลดีเพียงแค่ทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับ อิลิมาน เอ็นดิอาย ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอีกด้วย แข้งวัย 24 ปี ช่วยเสริมเกมรับทางด้านซ้ายด้วยการเข้าสกัดเฉลี่ย 2.2 ครั้งต่อ 90 นาที และยังกล้าเผชิญหน้ากับคู่แข่งเมื่อได้บอลคืนมาอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นจากสถิติการเลี้ยงบอลสำเร็จ 2.8 ครั้งต่อ 90 นาที

 

3) ดารา โอชีย์ (อิปสวิช)


แม้ว่าเขาจะไม่สามารถช่วยให้อิปสวิชหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ 4-1 ต่อเวสต์แฮมก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติได้ แต่ดารา โอชีย์ก็ถือเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่าสำหรับทีมแข้งชาวไอริชวัย 25 ปีชนะการดวลลูกกลางอากาศต่อเกมมากที่สุด (4.8 ครั้ง) ในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยได้เล่นให้ทีมชนะเลยนับตั้งแต่ย้ายมาจากเบิร์นลีย์ แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาที่อิปสวิชจะคว้าชัยชนะครั้งแรกในลีกสูงสุดนับตั้งแต่กลับมา

 

2) โดมินิก โซลันกี (ท็อตแนม)


กองหน้าค่าตัวแพงของท็อตแนมใช้เวลานานกว่าจะเริ่มทำประตู โดยไม่สามารถยิงได้เลยในสามเกมแรก แต่โดมินิก โซลันกีก็ยังสร้างความประทับใจในแนวรุก เขายิงได้สองประตูและทำหนึ่งแอสซิสต์ให้กับทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะเกิดขึ้นในเกมที่แพ้ไบรท์ตัน 3-2 อย่างน่าผิดหวังในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โซลันกีเริ่มแสดงความสามารถให้เห็นแล้วและพยายามพิสูจน์ว่าการตัดสินใจที่จะทุ่มเงินซื้อตัวเขามาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง!

 

1) จาดอน ซานโช (เชลซี)


ในเพียงแค่ 4 เกม จาดอน ซานโช่ ทำแอสซิสต์ได้เทียบเท่ากับสถิติการแอสซิสต์ที่ดีที่สุดของเขาในฤดูกาลพรีเมียร์ลีก โดยทำสามแอสซิสต์ให้กับเชลซีหลังจากย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าการเพิ่มตัวรุกอีกคนหนึ่งอาจเป็นประเด็นที่ต้องถกเถียงกันในภายหลัง แต่ความจริงก็คือ ซานโช่ เริ่มต้นชีวิตที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในฤดูกาล 2024-25 มีเพียง โมฮัมเหม็ด คูดุส จากเวสต์แฮม (3.3 ครั้ง) เท่านั้นที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากกว่าเขา (3 ครั้ง) ซึ่งซานโชหวังที่จะพิสูจน์ว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (โดยเฉพาะในส่วนของ เทน ฮาก) "คิดผิด" ที่ปล่อยเขาออกจากทีม!

 

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 ผู้เล่นระดับแนวหน้าจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่พิสูจน์ออกมาด้วยตัวเองแล้วว่า โอกาสกับทีมใหม่ของพวกเขา เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เฉิดฉาย และมีส่วนสำคัญต่อการยกระดับทีมอย่างแท้จริง!