รุด ฟาน จะมา พลิก หรือจะมา พัง
รูด ฟาน นิสเตลรอย กับบทบาทใหม่ในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราวของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กลายเป็นประเด็นที่สร้างความตื่นเต้นอย่างมากในหมู่แฟนบอลปีศาจแดง โดยเฉพาะกับประสบการณ์ที่โดดเด่นของผู้จัดการทีมวัย 48 ปีในฐานะนักเตะระดับตำนานของแมนฯยูไนเต็ด บวกกับชื่อเสียงด้านการจัดการทีมที่เคร่งครัดและเข้มข้นในอดีตของเขา จุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ เอริค เทน ฮาก กุนซือรุ่นพี่ชาวดัตช์ถูกปลดออกจากเก้าอี้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องของทีมปีศาจแดง และ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ซีอีโอกลุ่ม อิเนออส และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรตัดสินใจเลือก ฟาน นิสเตลรอย เข้ามารับหน้าที่สำคัญนี้แทน เพื่อพาทีมก้าวผ่านวิกฤตและคงเสถียรภาพเอาไว้ขณะที่ทีมบริหารกำลังค้นหาผู้จัดการทีมแบบถาวร ซึ่งแม้ว่าแฟนบอลจำนวนมากจะรู้สึกตื่นเต้นกับการกลับมาของ ฟาน นิสเตลรอย แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับประสบการณ์การคุมทีมอันน้อยนิดของเขา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องบทบาทของ รุด ที่พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ซึ่งเคยมีปัญหากับนักเตะจนส่งผลให้ต้องออกจากตำแหน่งในที่สุด
ในช่วงที่คุมทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน รุด ฟาน นิสเตลรอย เริ่มต้นจากการคุมทีมสำรองในปี 2021 ก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้คุมทีมชุดใหญ่ในปีถัดมา โดยฤดูกาล 2022-23 เขาสามารถพาทีมไปสู่ตำแหน่งรองแชมป์ลีกรองจากทีมเฟเยนูร์ด อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเวลาที่คุมทีม ก็มีรายงานถึงการปะทะระหว่างเขากับนักเตะเป็นระยะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและความเคร่งครัดในการจัดการทีมของเขา บางแหล่งข่าวเผยว่ามีการร้องเรียนถึงบอร์ดบริหารของพีเอสวีโดยผู้เล่นกลุ่มเล็กๆ ที่รู้สึกถึงความเข้มงวดที่มากเกินเหตุและวิธีการจัดการทีมที่ไม่เหมาะสมของเขา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ฟาน นิสเตลรอย ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังทำหน้าที่ได้แค่เพียง 15 เดือนเท่านั้น
สถานะการณ์ที่เกิดขึ้นที่ ไอนด์โฮเฟน ทำให้เกิดความกังวลว่า แนวทางการคุมทีมของ ฟาน นิสเตลรอย อาจทำให้เขาประสบปัญหาที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับความคาดหวังจากผู้เล่นระดับสตาร์ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของยูไนเต็ดมองว่า ฟาน นิสเตลรอย นั้นมีทัศนคติที่มุ่งมั่น ซึ่งน่าจะช่วยยกระดับสปิริตของทีมได้ โดยอาศัยประสบการณ์จากการเป็นผู้เล่นมาก่อนและเข้าใจถึงวัฒนธรรมของสโมสรอย่างลึกซึ้ง เขาเคยมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในฐานะกองหน้าตัวฉกาจของแมนฯยูไนเต็ด โดยเขาทะลวงตาข่ายไปถึง 150 ประตูจากการลงเล่นเพียง 219 เกม และคว้าแชมป์ในรายการต่าง ๆ เช่น พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และลีกคัพ ซึ่งความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเขาต่อสโมสรเป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายคนคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นอีกในฐานะกุนซือของทีม
ในช่วงที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกำลังดำเนินการหาผู้จัดการทีมถาวรนั้น ฟาน นิสเตลรอย ถือเป็นตัวเลือกที่ทางสโมสรเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลงานที่ดีให้กับทีมในระยะนี้ได้ ซึ่งหากผลงานเป็นไปอย่างที่คาดหวัง ความเป็นไปได้ที่ ฟาน นิสเตลรอย จะได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้จัดการทีมถาวรก็มีเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ฟาน นิสเตลรอย จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและเข้าใจในความต้องการของผู้เล่น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่เคยเกิดขึ้นที่พีเอสวีอีก
ในช่วงที่ ฟาน นิสเตลรอย รับหน้าที่คุมทีมแบบชั่วคราว เป็นที่คาดว่าทางอิเนออส จะมีการพิจารณาตัวเลือกผู้จัดการทีมถาวรชื่อดังหลายราย ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสข่าวและเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นคือ ชาบี เอร์นานเดซ ที่เพิ่งพาทีมบาร์เซโลนาผ่านฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และยังมี แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เพิ่งอำลาทีมชาติอังกฤษไป โดยทั้งคู่มีประสบการณ์สูงในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งได้รับการจับตามองจากความสำเร็จในลีกโปรตุเกสและความชำนาญด้านแท็กติก แต่แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า อโมริม ยังไม่ต้องการที่จะออกจาก สปอร์ติ้ง กลางฤดูกาล ขณะที่ผู้จัดการทีมที่มีรายอื่น ๆ เช่น โธมัส แฟร้งค์ ผู้จัดการทีมเบรนท์ฟอร์ด และ เกรแฮม พอตเตอร์ อดีตผู้จัดการทีม ไบรท์ตัน ก็ยังอยู่ในข่ายเช่นกัน รวมถึง คีแรน แมคเคนนา ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมหน้าใหม่ที่มีชื่อเสียงจากการวิเคราะห์เกมที่ละเอียดและเคยเป็นส่วนหนึ่งของสตาฟแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาก่อน
ฟาน นิสเตลรอย กำลังจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ในบทบาทนี้ แม้ว่าเขาจะพิสูจน์แล้วว่าสามารถรับมือกับความกดดันได้ในฐานะผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จสูง แต่ในบทบาทของผู้จัดการทีม เขายังต้องหาสมดุลระหว่างความจริงจังในการทำงานกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เล่น เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดในทีมที่เคยเกิดขึ้นกับ เทน ฮาก ซึ่งเคยมีรายงานว่าเขาเคยเจอกับปัญหาคล้ายกันนี้มาก่อน การทำงานของ ฟาน นิสเตลรอย จะถูกจับตามองจากฝ่ายบริหารของแมนฯยูไนเต็ดอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาว่าการคุมทีมในช่วงชั่วคราวนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความแน่นอนในสโมสรหรือเป็นเพียงการทดสอบสั้น ๆ ที่อาจไม่ประสบผลสำเร็จในระยะยาว
สำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแล้ว การกลับมาของ ฟาน นิสเตลรอย ในฐานะผู้จัดการทีมครั้งนี้เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้เห็นภาพของตำนานที่เคยสร้างความประทับใจในสนามหวนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะได้ลุ้นว่าการปรับตัวของกองหน้าฮีโร่ของพวกเขาในบทบาทใหม่นี้ จะนำพาทัพปีศาจแดงกลับไปสู่เส้นทางของความสำเร็จอีกครั้งหรือไม่
ดูกีฬาสดได้ที่ 👉 | GoalDaddy TV (gdgoal.tv)